อุ้มบุญ.....ผิดกม. ?
ลงพิมพ์ในแนวหน้า : 21 กุมภาพันธ์ 2563
ดร. รุจิระ บุนนาค
21 กุมภาพันธ์ 2563
Facebook : Rujira Bunnag
Twitter : @RujiraBunnag
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านนายหน้าสามี-ภริยาชาวจีน ขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติย่านนาคนิวาส กรุงเทพฯ และเข้าจับกุมสามี-ภริยาชาวจีน พร้อมคนไทยร่วมขบวนการเกือบ 10 คน นอกจากนี้ ยังพบหญิงไทยที่รับจ้างตั้งท้องอีก 7 คน และทารกวัยแบเบาะ 2 คน มีการยึดทรัพย์ร่วม 100 บาท
วิธีการของขบวนการนี้ คือ นายหน้าชาวจีนรับคำสั่งจากเศรษฐีชาวจีน และหาสาวไทยให้ตั้งครรภ์แทน โดยให้ค่าตอบแทน 4-5 แสนบาทต่อการคลอดลูก 1 คน ถ้าเป็นฝาแฝดจะได้ค่าจ้าง 6 บาท หากตกลงกันได้ จะพาไปฉีดสเปิร์มที่ประเทศเพื่อนบ้าน หากเชื้อติด สาวไทยจะได้ค่าตอบแทนเบื้องต้น 5 พันบาท และพากลับมาตั้งครรภ์ในไทย คนของขบวนการนี้ จะช่วยดูแลระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ได้ 6-7 เดือน จะเตรียมเอกสารขอวีซ่าเข้าประเทศจีน เพื่อไปคลอดที่นั่น กรณีที่เด็กคลอดที่ไทย จะมีพี่เลี้ยงของขบวนการนี้ ช่วยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความผูกพันความเป็นแม่และลูก
การอุ้มบุญ คือ การให้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์จากการปฏิสนธิภายนอกร่างกายแทนคู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถมีลูกได้ การปฏิสนธิอาจใช้สเปิร์มและไข่จากคู่สามีภรรยาดังกล่าว หรือเป็นสเปิร์มหรือไข่จากคนใดคนหนึ่งผสมกับสเปิร์มหรือไข่ที่ได้รับบริจาคจากผู้อื่น แล้วจึงนำตัวอ่อนฝังเข้าไปในมดลูกของหญิงที่อุ้มบุญ หรืออาจจะใช้ตัวอ่อนที่ได้รับการผสมเทียมจากภายนอก ที่เรียกกันว่า “เด็กหลอดแก้ว หรือ IV (In Vitro Fertilization)” ฉีดเข้าไปในมดลูกของผู้หญิงที่รับจ้างอุ้มบุญ ในกรณีนี้ทั้งพ่อและแม่ต้องมีความสัมพันธ์กันกับตัวอ่อนในท้องของหญิงรับจ้างอุ้มบุญ
การอุ้มบุญ กลายมาเป็นที่สนใจว่าตามกฎหมายไทย กำหนดเรื่องนี้เช่นไร
การอุ้มบุญในประเทศไทย จะบังคับตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อกำหนดสถานะความเป็นบิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ให้เหมาะสมตลอดจนควบคุมการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับตัวอ่อนและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มิให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง
ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีฯ “เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์” หมายความว่า กรรมวิธีใด ๆ ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่นำอสุจิและไข่ออกจากร่างกายมนุษย์ เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่เป็นไปตามธรรมชาติ รวมทั้งการผสมเทียม “การผสมเทียม" หมายความว่า การนำอสุจิเข้าไปในอวัยวะสืบพันธุ์ของหญิงเพื่อให้หญิงนั้นตั้งครรภ์โดยไม่มีการร่วมประเวณี “การตั้งครรภ์แทน” หมายความว่า การตั้งครรภ์โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนมีข้อตกลงเป็นหนังสือไว้กับสามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายก่อนตั้งครรภ์ว่าจะให้ทารกในครรภ์เป็นบุตรของสามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
ตามพ.ร.บ. คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีฯ การดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนอย่างน้อยต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) สามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งภริยาไม่อาจตั้งครรภ์ได้ที่ประสงค์จะมีบุตรโดยให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน ต้องมีสัญชาติไทย ในกรณีที่สามีหรือภริยามิได้มีสัญชาติไทย ต้องจดทะเบียนสมรสมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
(2) หญิงที่ตั้งครรภ์แทนต้องไม่ใช่บุพการีหรือผู้สืบเชื้อสายของคู่สามีภริยา
(3) หญิงที่รับตั้งครรภ์แทนต้องเป็นญาติสืบสายโลหิตของสามีหรือภริยาที่ชอบด้วย
กฎหมายตาม (1) ในกรณีที่ไม่มีญาติสืบสายโลหิตของสามีหรือภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้หญิงอื่นรับตั้งครรภ์แทนได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยต้องมีสัญชาติเดียวกันกับสามีหรือภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายที่ประสงค์จะมีบุตรโดยให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน