ภาพยนตร์ยุคดิจิตอล
ลงพิมพ์ในโพสต์ทูเดย์ : 12 มีนาคม 2562
ดร. รุจิระ บุนนาค
12 มีนาคม 2562
Facebook : Rujira Bunnag
Twitter : @RujiraBunnag
ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ และเป็นแฟนประจำในการเช่าภาพยนตร์ในรูปแบบแผ่น CD แผ่น DVD จากร้านเช่า ในยุคปัจจุบันจะพบว่าร้านต่างๆได้เลิกกิจการจนแทบไม่เหลือแล้ว
ร้านเช่าภาพยนตร์ แบบแผ่น CD แผ่น DVD อาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้างในบางพื้นที่ ที่ยังมีกลุ่มลูกค้าประจำ อายุเลยวัยกลางคนขึ้นไป แต่นับวันลูกค้าน้อยลงไปมาก จนแทบจะนับถอยหลัง เพื่อรอปิดกิจการ
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทย ได้เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
ในยุคสมัยก่อน ความบันเทิงแบบอนาล็อกจะมีเทปคาสเซ็ท (Cassette) วีดีโอ (Video) ภาพยนตร์ชุดจีน หรือซีรี่ย์จีนกำลังภายในเป็นที่นิยมอย่างมาก อาคารพาณิชย์ตามท้องถนนจะเต็มไปด้วยร้านเช่าวีดีโอ มีการส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น เช่า 5 ฟรี 1 ฟรีค่าสมาชิก ธุรกิจร้านเช่าวีดีโอสามารถทำรายได้เป็นอย่างดี ค่าเช่าตกม้วน 10 บาท หนึ่งม้วนดูได้ชั่วโมงกว่า ซีรี่ย์จีนกำลังภายในแต่ละเรื่องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 10 ม้วน บางเรื่องมีถึง 50 ม้วน บางเรื่องไม่ได้มาทั้งชุด มาทีละม้วนสองม้วน เพราะออกอากาศชนกับทางโทรทัศน์ ยิ่งชม ยิ่งสนุก ใครมาถึงก่อนมีสิทธิเช่าก่อน ถึงขนาดที่ว่าวีดีโอม้วนนั้น เจ้าของร้านไม่ต้องวางบนหิ้ง แค่เปลี่ยนมือจากผู้เช่ารายหนึ่งไปยังผู้เช่าอีกราย ทุกร้านล้วนออกกฎ หากคืนเกินกำหนด ต้องเสียค่าปรับวันละไม่ต่ำกว่า 5 บาท ในเวลานั้นร้านเช่าวีดีโอ ทำให้รายได้ของโรงภาพยนตร์ลดลง
การเช่าวีดีโอมาดูที่บ้าน จัดได้ว่าเป็นความบันเทิงราคาถูก ทั้งยังทำให้สมาชิกในครอบครัวได้พบเจอกัน เพราะดูภาพยนตร์ด้วยกัน ยิ่งเป็นซีรี่ย์หลายร้อยตอน สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานขึ้น ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นยุคภาพยนตร์แผ่น CD หรือแผ่น DVD ที่ร้านให้เช่ายกเลิกการให้เช่าวิดีโอเป็นการให้เช่าแผ่น CD หรือแผ่น DVD แทน
กิจการร้านเช่า ภาพยนตร์แบบแผ่น CD หรือ แผ่น DVD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็น ตำนาน ชื่อ บล็อกบัสเตอร์ ( Blockbuster ) ก่อตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา กิจการเติบโตสูงสุดเมื่อปีพ.ศ. 2547. มีการจ้างงานถึง 84,300 ตำแหน่งทั่วโลก และมีร้านถึง 9,094 ร้านทั่วโลก รวมทั้งที่เปิดในประเทศไทยด้วย เฉพาะร้านที่เปิดในสหรัฐอเมริกามีถึง 4,500 ร้าน
ปัจจุบันมีร้านบล็อกบัสเตอร์เปิดดำเนินกิจการอยู่เพียงร้านเดียวในโลก ที่เมืองเบนด์ ในรัฐโอลีกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นจุดเด่น และแหล่งท่องเที่ยว เพราะเป็นเพียงร้านเดียวที่มีภาพยนตร์แบบสมัยเก่าเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้
ก่อนหน้านี้ยังมีร้านบล็อกบัสเตอร์เหลืออีกแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย แต่เพิ่งปิดกิจการไปไม่นาน
ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารในการเข้าสู่ยุค 4 G เทคโนโลยีที่ส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มถึง 100 เม-กะไบต์ต่อวินาที
เทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาและต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแม้จะอยู่อีกซีกโลก กลับเหมือนอยู่ใกล้กันแค่คืบ เพราะเห็นหน้ากัน ผ่านทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส ทั้งยังสามารถส่งข้อความ ส่งเอกสารต่างๆ รูปภาพ คลิปวิดีโอ ผ่าน แอพพลิเคชั่น (Application) ต่างๆภายในระยะเวลาสั้น โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ทำให้การติดต่อลดขั้นตอนได้มากขึ้น
การเข้าถึงความบันเทิงไม่ว่าจะชมภาพยนตร์ ฟังเพลง สามารถชมผ่านทางยูทูป (YouTube) หรือเว็บต่างๆแบบไม่มีค่าใช้จ่าย การดาวน์โหลดที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที สามารถได้ภาพยนตร์มานั่งชมอย่างท่านใจ
ความบันเทิงแบบไม่มีค่าใช้จ่าย อาจมีขีดจำกัด ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ต้องสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการแบบเสียค่าสมาชิก เช่น เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) นอกจากนี้ ยังมีเว็บเถื่อนที่มีภาพยนตร์เพิ่งออกจากโรงภาพยนตร์ เว็บเถื่อนหรือเว็บใต้ดินเหล่านี้ เจ้าของเว็บมีรายได้จากโฆษณา การเล่นเกม และการพนันออนไลน์
ย้อนไปอดีต เมื่อ 20 ปีก่อน บริษัทเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2540 ที่เมืองออกแกทัส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้บริการเช่าภาพยนตร์แบบแผ่น CD และ แผ่น DVD ให้บริการเปิดให้จองโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ต่อมากิจการเติบโตขยายตัวขึ้นมาก ได้เปลี่ยนเป็นให้บริการชมภาพยนตร์สตรีมมิ่ง (Streaming) แบบออนไลน์ เรียกเก็บค่าสมาชิก ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้จำนวนมากได้
ในปีพ.ศ. 2559 เน็ตฟลิกซ์มีลูกค้าจำนวน 81.5 ล้าน คน พ.ศ. 2560 มีลูกค้าจำนวน 98.75 ล้าน พ.ศ. 2561 มีลูกค้าจำนวน 125 ล้าน คนจากทั่วโลก
ในปีพ.ศ. 2559 เน็ตฟลิกซ์มีรายได้รวม 282,592 ล้าน บาท กำไร 5,984 ล้าน บาท พ.ศ. 2560 มีรายได้ 374,176 ล้าน บาท กำไร 17,888 ล้าน บาท พ.ศ. 2561 มีรายได้ 512,000 ล้าน บาท แม้จะไม่เปิดเผยกำไรที่ได้ในปีนี้ แต่คาดว่าจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า